อากาศยานไร้คนขับ (Drone) กับการพัฒนาอุตสาหกรรมเหมืองแร่
อากาศยานไร้คนขับ (Drone) กับการพัฒนาอุตสาหกรรมเหมืองแร่
การกำหนดแนวเขตประทานบัตรและงานรังวัดจัดทำแผนที่ภูมิประเทศ (Topographic map) พื้นที่ประกอบการอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ด้วยกล้องรังวัดชนิดประมวลผลรวม (Total Station) นั้น จะเห็นได้ว่าแผนที่แสดงการทำเหมืองที่ได้จะประกอบด้วยข้อมูลเส้นชั้นความสูงกับแนวเขตประทานบัตรเหมืองแร่ ซึ่งขาดความชัดเจนในด้านรายละเอียดเชิงประจักษ์ เนื่องจากสามารถสอบทานความถูกต้องครบถ้วนในการจัดทำแผนที่ได้ยาก นอกจากนี้ การรังวัดด้วยกล้องประมวลผลรวมที่อ้างอิงจากหลักหมายเขตประทานบัตรเหมืองแร่ ส่งผลให้การจัดทำแผนที่มีโอกาสในการเกิดความคลาดเคลื่อนสูง จากปัญหาการเคลื่อนทางตำแหน่งของหลักหมายเขตที่ใช้ในการอ้างอิงเพื่อออกงานรังวัด
กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ได้มีความพยายามในการนำใช้การตรวจสอบพื้นที่ประกอบการเหมืองแร่ด้วยภาพถ่ายดาวเทียมและแอพพลิเคชั่น Google Earth เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านการกำกับดูแลให้สามารถทำได้อย่างครอบคลุมและชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่ทว่า การตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ด้วยภาพถ่ายอย่างเดียวก็มีข้อจำกัดในด้านการแปลผลการใช้ประโยชน์พื้นที่ จากทั้งความละเอียดเชิงตำแหน่ง (Spatial Resolution) ของข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม และการขาดข้อมูลสภาพภูมิประเทศสามมิติที่ได้จากแผนที่เส้นชั้นความสูง
การกำหนดแนวเขตประทานบัตรและงานรังวัดจัดทำแผนที่ภูมิประเทศ (Topographic map) พื้นที่ประกอบการอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ด้วยกล้องรังวัดชนิดประมวลผลรวม (Total Station) นั้น จะเห็นได้ว่าแผนที่แสดงการทำเหมืองที่ได้จะประกอบด้วยข้อมูลเส้นชั้นความสูงกับแนวเขตประทานบัตรเหมืองแร่ ซึ่งขาดความชัดเจนในด้านรายละเอียดเชิงประจักษ์ เนื่องจากสามารถสอบทานความถูกต้องครบถ้วนในการจัดทำแผนที่ได้ยาก นอกจากนี้ การรังวัดด้วยกล้องประมวลผลรวมที่อ้างอิงจากหลักหมายเขตประทานบัตรเหมืองแร่ ส่งผลให้การจัดทำแผนที่มีโอกาสในการเกิดความคลาดเคลื่อนสูง จากปัญหาการเคลื่อนทางตำแหน่งของหลักหมายเขตที่ใช้ในการอ้างอิงเพื่อออกงานรังวัด
กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ได้มีความพยายามในการนำใช้การตรวจสอบพื้นที่ประกอบการเหมืองแร่ด้วยภาพถ่ายดาวเทียมและแอพพลิเคชั่น Google Earth เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านการกำกับดูแลให้สามารถทำได้อย่างครอบคลุมและชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่ทว่า การตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ด้วยภาพถ่ายอย่างเดียวก็มีข้อจำกัดในด้านการแปลผลการใช้ประโยชน์พื้นที่ จากทั้งความละเอียดเชิงตำแหน่ง (Spatial Resolution) ของข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม และการขาดข้อมูลสภาพภูมิประเทศสามมิติที่ได้จากแผนที่เส้นชั้นความสูง

กพร. ดำเนินการใช้งานอากาศยานไร้คนขับในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ (ข่าวมติชนออนไลน์ วันที่ 13 พ.ย. 2559)
https://www.matichon.co.th/economy/news_358302
https://www.matichon.co.th/economy/news_358302
กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จึงได้เริ่มนำเทคโนโลยีการรังวัดสำรวจด้วยอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle: UAV หรือ Drone) มาใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีงานรังวัดชนิดต่าง ๆ เช่น เครื่องรับสัญญาณดาวเทียมสำหรับงานรังวัด (GNSS) และภาพถ่ายทางอากาศ/ภาพถ่ายดาวเทียม เพื่อใช้ในการตรวจสอบสภาพภูมิประเทศพื้นที่ประกอบการเหมืองแร่ จากการใช้เทคโนโลยีงานรังวัดด้วยอากาศยานไร้คนขับในการสนับสนุนภารกิจด้านต่าง ๆ ของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ พบว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานในการจัดทำข้อมูลสำหรับการตรวจสอบและกำกับดูแลสถานประกอบการเหมืองแร่ และยังช่วยขจัดปัญหาการเข้าถึงพื้นที่ที่เข้าถึงยากหรือพื้นที่เสี่ยงอันตราย เช่น บริเวณหน้าผาสูงชัน หรือในบ่อเหมืองที่มีการทำงานของเครื่องจักรขนาดใหญ่ โดยข้อมูลที่ได้จากการสำรวจเป็นข้อมูลแบบเรียลไทม์ (Real time) มีความชัดเจน สามารถนำไปใช้ในการตรวจสอบการทำเหมืองที่ไม่ได้มาตรฐานตามหลักวิศวกรรมเหมืองแร่ สนับสนุนการประเมินการชำระค่าภาคหลวง และตรวจสอบว่ามีการฟื้นฟูพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมืองแล้วตามข้อตกลงแนบท้ายประทานบัตร
ตัวอย่างแผนที่แสดงพื้นที่ประกอบการเหมืองแร่จากงานรังวัดด้วยอากาศยานไร้คนขับ

ตัวอย่างแผนที่แสดงพื้นที่ประกอบการเหมืองแร่จากงานรังวัดด้วยอากาศยานไร้คนขับ

แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ แผนที่เส้นชั้นความสูงแสดงสภาพภูมิประเทศ


ตัวอย่างการตรวจสอบความลาดเอียง (slope) ของบ่อเหมืองจากข้อมูลภูมิประเทศที่ได้จากงานรังวัดด้วยอากาศยานไร้คนขับ

ตัวอย่างการนำข้อมูลขอบเขตประทานบัตรเหมืองแร่แสดงร่วมกับโมเดล 3 มิติ ที่ได้จากการประมวลผลข้อมูลจากอากาศยาน
ไร้คนขับ เพื่อใช้ในการตรวจสอบกำกับดูแลสถานประกอบการเหมืองแร่
ไร้คนขับ เพื่อใช้ในการตรวจสอบกำกับดูแลสถานประกอบการเหมืองแร่